ในปี 1950 10 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สงบลง ผู้คนในประเทศญี่ปุ่นต่างทำงานอย่างหนักหน่วงหมายพัฒนาเศรษฐกิจให้รุ่งเรือง และลืมความปราชัยแต่หนหลัง
อย่างไรก็ตามการพ่ายแพ้สงสครามทำให้ญี่ปุ่นไม่อาจหลีกเลี่ยงสถานะ“คนแพ้” ไปได้ ในห้วงเวลาเดียวกันนั้นเองนานาประเทศต่างสนใจที่จะทำการสำรวจพื้นที่โลก
ดังนั้นการประชุมนานาชาติวาระพิเศษเกี่ยวกับการสำรวจทางธรณีวิทยาจึงเกิด ขึ้น คณะทำงานพิเศษของอเมริกา สหภาพโซเวียต ถูกจัดตั้งเพื่อสำรวจพื้นที่ขั้วโลกใต้ซึ่งขณะนั้นยังไม่เคยมีใครเข้าถึง ญี่ปุ่นเป็นชาติเดียวในเอเชียที่ประกาศว่าต้องการจะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ท่ามกลางความกังขาของประเทศอื่น ๆ ในแง่ที่ว่า ประเทศ “ผู้แพ้” นั้นจะทำสิ่งใดได้ ถึงกระนั้นญี่ปุ่นก็ได้ร่วมโครงการนี้จยได้ เขตพื้นที่ที่ญี่ปุ่นได้รับมอบหมายให้สำรวจนั้นเป็นพื้นที่อันเรียกได้ว่า “ไม่สามารถเข้าถึงได้” โดยแท้จริง เพราะต้องเผชิญทั้งอุณหภูมิที่ติดลบกว่า 50 องศา และ พายุหิมะกระหน่ำด้วยความเร็ว 100 เมตรต่อวินาที นี่เป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องทำ แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ไม่มีที่ให้ถอยหลังกลับ
เพราะ สิ่งนี้คือโอกาสที่จะแสดงให้นานาอารยะประเทศเห็นว่าประเทศนี้มีศักยภาพที่เท่าเทียมกับชาติอื่น ๆ ในโลกใบนี้
นักวิจัยทางธรณีวิทยา คุราโมจิ ทาเคชิ ผู้ซึ่งเสียภรรยาไปในช่วงสงครามโลก กระหายที่จะร่วมสำรวจขั้วโลกใต้มากกว่าใครในทีนี้
เขาเข้าเผชิญหน้าความท้ายทายแม้จะมีจุดเปราะบางในตัว น้องสะใภ้อย่างทาคาโอกะ มิยุกิ รู้สึกเป็นห่วงทาเคชิอย่างมากจึงพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่
และไม่เคยจะแสดงให้ทาเคชิเห็นถึงความอ่อนแอใด ๆ ในขณะที่ทาเคชิและนักวิจัยอื่นทำงานอย่างหนักเพื่อจะสร้างทีมสำรวจขั้วโลก
ก็ต้องเผชิญปัญหาอย่างจังเมื่อทั้งประเทศและผู้คนในชุมชนรุมต่อต้านการเดิน ทางในครั้งนี้ แต่กระนั้นทาเคชิก็ได้แรงบันดาลใจจากพวกเด็กๆ
ที่มีความฝันและความหวังอย่างแรงกล้าต่ออนาคตของประเทศญี่ปุ่น เงินทุนก้อนเล็ก ๆ ถูกส่งให้ทาเคชิเงินทุนที่ได้มาจากการเงินเก็บของเด็ก ๆ ทั่วญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามการพ่ายแพ้สงสครามทำให้ญี่ปุ่นไม่อาจหลีกเลี่ยงสถานะ“คนแพ้” ไปได้ ในห้วงเวลาเดียวกันนั้นเองนานาประเทศต่างสนใจที่จะทำการสำรวจพื้นที่โลก
ดังนั้นการประชุมนานาชาติวาระพิเศษเกี่ยวกับการสำรวจทางธรณีวิทยาจึงเกิด ขึ้น คณะทำงานพิเศษของอเมริกา สหภาพโซเวียต ถูกจัดตั้งเพื่อสำรวจพื้นที่ขั้วโลกใต้ซึ่งขณะนั้นยังไม่เคยมีใครเข้าถึง ญี่ปุ่นเป็นชาติเดียวในเอเชียที่ประกาศว่าต้องการจะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ท่ามกลางความกังขาของประเทศอื่น ๆ ในแง่ที่ว่า ประเทศ “ผู้แพ้” นั้นจะทำสิ่งใดได้ ถึงกระนั้นญี่ปุ่นก็ได้ร่วมโครงการนี้จยได้ เขตพื้นที่ที่ญี่ปุ่นได้รับมอบหมายให้สำรวจนั้นเป็นพื้นที่อันเรียกได้ว่า “ไม่สามารถเข้าถึงได้” โดยแท้จริง เพราะต้องเผชิญทั้งอุณหภูมิที่ติดลบกว่า 50 องศา และ พายุหิมะกระหน่ำด้วยความเร็ว 100 เมตรต่อวินาที นี่เป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องทำ แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ไม่มีที่ให้ถอยหลังกลับ
เพราะ สิ่งนี้คือโอกาสที่จะแสดงให้นานาอารยะประเทศเห็นว่าประเทศนี้มีศักยภาพที่เท่าเทียมกับชาติอื่น ๆ ในโลกใบนี้
นักวิจัยทางธรณีวิทยา คุราโมจิ ทาเคชิ ผู้ซึ่งเสียภรรยาไปในช่วงสงครามโลก กระหายที่จะร่วมสำรวจขั้วโลกใต้มากกว่าใครในทีนี้
เขาเข้าเผชิญหน้าความท้ายทายแม้จะมีจุดเปราะบางในตัว น้องสะใภ้อย่างทาคาโอกะ มิยุกิ รู้สึกเป็นห่วงทาเคชิอย่างมากจึงพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่
และไม่เคยจะแสดงให้ทาเคชิเห็นถึงความอ่อนแอใด ๆ ในขณะที่ทาเคชิและนักวิจัยอื่นทำงานอย่างหนักเพื่อจะสร้างทีมสำรวจขั้วโลก
ก็ต้องเผชิญปัญหาอย่างจังเมื่อทั้งประเทศและผู้คนในชุมชนรุมต่อต้านการเดิน ทางในครั้งนี้ แต่กระนั้นทาเคชิก็ได้แรงบันดาลใจจากพวกเด็กๆ
ที่มีความฝันและความหวังอย่างแรงกล้าต่ออนาคตของประเทศญี่ปุ่น เงินทุนก้อนเล็ก ๆ ถูกส่งให้ทาเคชิเงินทุนที่ได้มาจากการเงินเก็บของเด็ก ๆ ทั่วญี่ปุ่น
และท้ายที่สุดโปรเจคนี้ก็ได้รับความสำคัญจากรัฐสภาจนกลายเป็นเป็นโปรเจคใหญ่ระดับชาติที่จะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้นานาชาติ
เห็นการฟื้นตัวของประเทศญี่ปุ่นหลังสงคราม แผนการต่าง ๆ ได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน หากญี่ปุ่นไม่มีเรือที่จะแล่นผ่านน้ำแข็งได้ในขณะนั้น
ในที่สุดคำขอดัดแปลงเรือรบ Soya หรือ เรือแห่งปาฏิหาริย์
ก็ได้เริ่มต้น Soya เป็นเรือรบที่ขึ้นชื่อลือลามากในช่วงครามโลกเนื่องจากสามารถพาผู้คนรอดตายมา ได้ทุกครั้งเมื่อต้องออกรบกับศัตรูจึงได้ชื่อว่า เรือแห่งปาฏิหาริย์
ในการปรับปรุง soya วิศวกรผู้ออกแบบเรือรบยามาโตะได้รับการขอร้องให้ทำงานนี้ภายในเวลา 10 เดือน ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ทันเวลา
ท่ามกลางความยากลำยากหลายประการการเลือกบุคคลากรเพื่อการสำรวจขั้วโลกใต้ก็ดำเนินต่อไป หากเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เห็นการฟื้นตัวของประเทศญี่ปุ่นหลังสงคราม แผนการต่าง ๆ ได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน หากญี่ปุ่นไม่มีเรือที่จะแล่นผ่านน้ำแข็งได้ในขณะนั้น
ในที่สุดคำขอดัดแปลงเรือรบ Soya หรือ เรือแห่งปาฏิหาริย์
ก็ได้เริ่มต้น Soya เป็นเรือรบที่ขึ้นชื่อลือลามากในช่วงครามโลกเนื่องจากสามารถพาผู้คนรอดตายมา ได้ทุกครั้งเมื่อต้องออกรบกับศัตรูจึงได้ชื่อว่า เรือแห่งปาฏิหาริย์
ในการปรับปรุง soya วิศวกรผู้ออกแบบเรือรบยามาโตะได้รับการขอร้องให้ทำงานนี้ภายในเวลา 10 เดือน ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ทันเวลา
ท่ามกลางความยากลำยากหลายประการการเลือกบุคคลากรเพื่อการสำรวจขั้วโลกใต้ก็ดำเนินต่อไป หากเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซับไทย:R U Indy
แปลไทยโดย:fatty Dog
♦End♦